- ตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ความตึงเครียดปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชากดดันอุณหภูมิการชุมนุมในประเทศเพิ่ม สูงขึ้น และมีการคาดการณ์ไปสู่การยุบสภาที่เร็วขึ้น ในช่วงท้ายตลาดของต้นสัปดาห์มีแรงซื้อกลับในหุ้นใหญ่บางตัวประคองดัชนี 985.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 24,267.71 ล้านบาท
- ประเด็นเงินเฟ้อพุ่งสูงในกลุ่มประเทศเอเชียส่งผลให้เกิดความกังวลจนมีการเท ขายของต่างชาติทุกตลาดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งธนาคารกลางจีนได้ประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ อีก 0.25% สู่ระดับ 6.06% หลังจากที่ในปี 2553 ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีแรงเทขายหุ้นออก กดดันตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงหนัก ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาอยู่ที่ 983.53 จุด ลดลง 2.16 จุด มูลค่าการซื้อขาย 27,410.78 ล้านบาท
- หลังธนาคารกลางจีนปรับขึ้น
ดอกเบี้ย พร้อมกับส่งสัญญาณ ดำเนินนโยบายทางการเงินแบบเข้มงวดต่อไปเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ รวมทั้งยังมีปัจจัยภายในประเทศกรณีกลุ่มพันธมิตรฯยังยืนยันชุมนุมในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ต่อไป ทำให้ดัชนีร่วงลงต่อไปอยู่ที่ 969.89 จุด ลดลง 13.64 จุด มูลค่า 29,162.78 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายออกสุทธิต่อเนื่องทุกวันในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย หลังตัวเลขเงินเฟ้อเกาหลีใต้พุ่งสูง ตลาดมีการคาดการณ์ไปล่วงหน้าแล้วว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 9 มีนาคมนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน อีก 0.25% ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศทำให้ดัชนีปรับตัวลงแรงอยู่ที่ 949.09 จุด ลดลง 20.80 จุด มูลค่าซื้อขาย 32,609.63 ล้านบาท
- ในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมา แรงเทขายชะลอลงหลังจากเทขายหนักติดต่อกัน 2 วัน ทำให้ทั้งสัปดาห์ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 11,244 ล้านบาท และล่าสุด วันที่ 11 ก.พ. ดัชนีปิดที่ 949.57 จุด บวก 0.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,586.99 ล้านบาท
- สำหรับสัปดาห์นี้ บล.บัวหลวงคาดการณ์แรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติยังมีต่อเนื่อง แต่คาดว่าอาจจะชะลอความแรงลง ซึ่งระหว่างนี้ตลาดหุ้นจะยังไม่มีทิศทางขาขึ้นชัดเจน เพราะยังต้องรอข่าวกำไรบริษัทจดทะเบียนออกทั้งหมดในช่วงปลายเดือนนี้ ตลาดหุ้นมีแนวรับ 920 จุด และแนวต้าน 950 จุด
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4288 ประชาชาติธุรกิจ