ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของจีนในการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ เคยใช้เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฝ่าฟันวิกฤตการเงินโลกมาได้ แต่ปัจจุบันเครื่องมือดังกล่าวกำลังคุกคามเติมเชื้อเงินเฟ้อ
วอลล์สตรีต เจอร์นัลอ้างแถลงการณ์ของธนาคารกลางจีนว่า จีนจะขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้หยวนระยะ 1 ปีจาก 5.31% เป็น 5.56% และขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลหยวนระยะ 1 ปี จาก 2.25% เป็น 2.5%
การ ปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเซอร์ไพรส์ครั้งนี้เป็นความพยายามล่าสุดของจีนที่ต้อง การบรรเทาแรงกดดันเงินเฟ้อที่กำลังก่อตัวขึ้น ขณะที่สหรัฐส่งสัญญาณว่าจะมีการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน และนักลงทุนอัดฉีดเงินเข้าเอเชียเพื่อหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น
หวัง เตา นักเศรษฐศาสตร์ของยูบีเอส ซิเคียวริตี้ส์ วิเคราะห์ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นสิ่งจำเป็น และมีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าต้องการคุมราคาอสังหาริมทรัพย์และอัตราเงินเฟ้อ
ข่าวนี้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินเมื่อวัน อังคาร โดยดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลียที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะชะลอการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน และกระทบต่อความต้องการวัตถุดิบ อีกทั้งยังเพิ่มแรงกดดันต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งพึ่งพาการส่งออกคอมโมดิตี้อย่างมาก
ทั้งนี้ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงราว 0.9% มาสู่ระดับต่ำสุดในรอบวันที่ 0.9806 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่ยูโรร่วงลง 0.3% มาอยู่ที่ 1.3873 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ยูโร
วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 00:25:11 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์