23 February 2011

ราคาข้าวในประเทศส่อแววร่วง แถมเวียดนามแย่งตลาดส่งออก

แหล่ง ข่าวในวงการค้าข้าว เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาข้าวในประเทศมีแนวโน้มลดลง สาเหตุใหญ่มาจากข้าวในสต๊อครัฐบาลระบายให้กับผู้ส่งออกตั้งแต่ปลายปี 2553 ประมาณ 4 ล้านตัน มีการส่งออกได้จริงจากส่วนนี้เพียง 500,000 ตัน เหลือประมาณ 30.5 ล้านตัน หมุนเวียนในประเทศ บางส่วนขายให้กับผู้ผลิตข้าวถุง ทำให้ปริมาณข้าวในประเทศยังสูง ส่งผลกระทบราคาข้าวในประเทศ นอกจากนี้ผลผลิตข้าวนาปรังเริ่มทยอยออกสู่ตลาด ทำให้ปริมาณข้าวยิ่งสูงขึ้นไปอีก



ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ ราคาข้าวเปลือกของไทยลดลงล่าสุด จากการสำรวจของกรมการค้าภายใน ณ วันที่ 21 ก.พ. ราคาขายส่งข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูการผลิต 53/54 อยู่ที่ตันละ 12,650-14,000 บาท ลดลงจากต้นฤดูกาลในเดือน พ.ย.53 ที่ตันละ 13,400-15,500 บาท ข้าวเปลือกเจ้าปี 53/54 ตันละ 8,400-8,500 บาท ลดลงจาก 8,800-9,300 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานีปี 53/54 ตันละ 10,400-12,000 บาท ลดลงจากตันละ 12,000-14,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวปี 53/54 ตันละ 13,500-16,000 บาท ลดลงจากตันละ 14,000-16,350 บาท



นางสาวกอบสุข เอี่ยวสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า เวียดนามลดค่าเงินด่องลง เกิดช่องว่างของราคาข้าวไทย กับข้าวเวียดนามสูงขึ้นถึงตันละ 60-80 เหรียญ ปัจจุบัน ราคาข้าวสารขาว 5% ของไทยตันละประมาณ 520 เหรียญสหรัฐ แต่ของเวียดนามประมาณ 460 เหรียญ ทำให้ผู้ซื้อไม่สนใจซื้อข้าวไทย อีกทั้ง สต๊อคข้าวของรัฐบาลระบายให้กับผู้ส่งออก ยังทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงกดราคาข้าวในตลาด



นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การปรับลดการปรับลดภาษีศุลกากรข้าวภายในข้อตกลงเปิดเสรีการค้าอาเซียน(อา ฟต้า) เวียดนามได้รับประโยชน์ค่อนข้างมากและมากกว่าไทย เนื่องจากชาวนาและผู้ประกอบการโรงสีโดยเฉพาะโรงสีขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็ม อี) ยังขาดความรู้ความเข้าใจต่อการใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรี เวียดนามส่งออกไปฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และสิงคโปร์เพิ่มขึ้น และกำลังเข้ามาตีตลาดมาเลเซียแทนไทย หากรัฐบาลยังไม่กระตุ้นการใช้ประโยชน์จากเออีซี เวียดนามจะแซงไทยกลายเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ในตลาดโลกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 มติชนออนไลน์

Sponsor